" การเป็นอัจฉริยะ
เกิดจากแรงบันดาลใจ
1%
อีก
99% มาจากหยาดเหงื่อที่ทุ่มเท "
( Thomas Edison )
โทมัส เอดิสัน ผู้ล้มเหลวเกือบหมื่นครั้ง แต่ไม่เคยยอมแพ้ความล้มเหลวหลายๆ อย่างในชีวิตเป็นเพราะคนเราไม่ตระหนักว่าพวกเขาอยู่ใกล้ความสำเร็จแค่ไหนตอนที่เขายอมแพ้เป็นคำยืนยันของนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลกคือ โทมัส เอดิสัน ชายผู้นี้หูหนวกตั้งแต่เด็ก เขาไม่สามารถได้ยินอะไรชัดทำให้เขาเรียนที่โรงเรียนได้ไม่ดีและที่โรงเรียนให้สมญานามเขาว่าเป็น “ไข่เน่าของชั้นเรียน”แต่เอดิสันมีแม่ที่เข้าใจเขา คอยดูแลและอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้เขาเสมอ เอดิสันต้องเข้าๆ ออกๆ โรงเรียนหลายแห่งแม่ของเขา ได้เป็นผู้สอนหนังสือให้เขาและยอมให้เขาเรียนรู้ด้วยตนเองกำลังใจจากแม่ ทำให้เอดิสันอ่านหนังสือมากขึ้นเขาสนุกสนานกับการทดลองต่างๆ ที่เขาอ่านจากหนังสือ ความอยากรู้ อยากเห็นทำให้เขาได้ทดลองวิทยาศาสตร์ต่างๆ มากมาย แม้การทดลองหลายครั้งจะมีความผิดพลาดและไม่ได้ผลแต่แม่คือผู้ที่พูดให้กำลังใจแก่เอดิสันอยู่เสมอปลูกฝังให้เขามีทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน เอดิสันมองเห็นความผิดพลาดเป็นบทเรียนมากกว่าจะเป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาท้อถอยดังเช่นในการทดลองเพื่อคิดค้นหลอดไฟ ซึ่งเป็นผลงานประดิษฐ์ชิ้นสำคัญของเขาเมื่อผู้ช่วยของเอดิสันกล่าวกับเขาว่า
“เราทำการทดลองมา 700 ครั้งแล้ว
แต่เรายังไม่มีคำตอบ เราล้มเหลวเสียแล้ว”
แต่เอดิสันกลับตอบว่า
“เปล่าหรอก เรายังไม่ล้มเหลว เรารู้มากกว่าใครๆ ในโลกในเรื่องนี้
และเรายังรู้อีกว่ามี 700 วิธีที่ไม่ควรทำ
อย่าเรียกว่า ความผิดพลาด แต่ให้เรียกว่า เป็นการเรียนรู้ ”
และเรายังรู้อีกว่ามี 700 วิธีที่ไม่ควรทำ
อย่าเรียกว่า ความผิดพลาด แต่ให้เรียกว่า เป็นการเรียนรู้ ”
นอกจากโทมัส เอดิสัน จะฝากผลงานทางวิทยาศาสตร์ไว้แก่โลกอย่างมากมายด้วยผลงานประดิษฐ์ซึ่งจดสิทธิบัตรไว้มากกว่า 1,000 ชิ้นแล้ว เอดิสัน นั้นกล่าวได้ว่าเป็นนักประดิษฐ์ที่มีผลงานมากที่สุดในยุคนั้น
เขามีสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ภายใต้ชื่อของเขาเป็นจำนวนถึง
1,200 ชิ้น สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เขาคิดค้นขึ้นมาเอง
แต่เป็นการพัฒนาจากสิ่งประดิษฐ์ดั้งเดิมที่คิดค้นขึ้นโดยลูกจ้างของเขา
เพราะเหตุนี้ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ
ในเรื่องการอ้างผลงานเป็นของตัวแต่ผู้เดียว โดยไม่แบ่งปันให้กับผู้คิดค้นดั้งเดิม
นอกจากสิทธิบัตรของเขาซึ่งมีอยู่ทั่วโลกแล้ว
เอดิสันก็ยังได้ก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ ภายใต้ชื่อ Edison Trust
ในความเป็นจริงแล้ว เอดิสันไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าตามที่คนทั่วไปเข้าใจแต่อย่างใด
หลักการของหลอดไฟฟ้าถูกพัฒนามาก่อนหน้านี้โดยนักประดิษฐ์หลายท่าน เช่น Juseph Swan หรือ Heinrich Goebel อย่างไรก็ตามเอดิสันได้คำนึงถึงการนำหลอดไฟฟ้าไปใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง
โดยเอดิสันได้ทำให้อายุการใช้งานของหลอดไฟฟ้ายาวนานพอที่จะนำไปใช้ได้อย่างสะดวกสบายในบ้านเรือนหรือร้านค้า
นอกจากนั้นเอดิสันยังได้สร้างระบบผลิตและแจกจ่ายไฟฟ้าอีกด้วย
นิตยสารไลฟ์(Life) ได้ยกย่องให้เอดิสันเป็นหนึ่งใน
"100 คนที่สำคัญที่สุดในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น