การเคลื่อนที่ คือ การเปลี่ยนตำแหน่งโดยมีจุดอ้างอิงเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คิดง่ายๆว่า ถ้าเรากำลังขับรถด้วยค้วยความเร็ว เราเป็นคนขับเราจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ จนกระทั่งเราเห็นก้อนหินที่พื้นขยับไปข้างหลังรถอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงรู้ว่าเรากำลังเคลื่อนที่ การเคลื่นที่จริงๆ เเล้วอาจกล่าวได้ว่า ขึ้นอยู่กับตัวของผู้สังเกตด้วย เช่น ถ้ามีคน คนหนึ่งอยู่บนเรือเเละเขาไม่ได้เดินไปไหน เขาก็จะไม่รู้สึกว่าตัวเองเคลื่อนที่ เเต่คนที่อยู่ที่ชายหาดจะเห็นว่าคนๆนั้น กำลังเคลื่อนที่อยู่ เป็นต้น
เเรง
เเรง หมายถึงการกระทำที่ทำให้วัตถุ เปลี่ยนเเปลงทั้ง ขนาด รูปร่าง ความเร็ว หรืออาจเปลี่ยนทิศทางของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ได้ ในทางฟิสิกส์เเรงนั้นทำให้เกิดงานของวัตถุ หรือทำให้วัตถุเปลี่ยนเเปลงพลังงานที่สะสมอยู่ได้
เเรงเป็นปริมาณ เวกเตอร์ มีทั้งขนาดเเละทิศทางเพราะเวลาเราออกเเรงกระทำกับวัตถุใดๆ เเรงกระทำของเราต้องมีทิศทาง เสมอ ดังนั้นในการพิจารณา เเรง ต้องพิจารณาทั้งขนาด เเละทิศทาง ด้วย
ในการคำนวนทางฟิสิกส์เราต้องมารู้จักการเเตกเเรงเเละการ รวมเเรงด้วยซึ่ง จริงๆเเล้ว เเรงเป็นเวกเตอร์ใดๆ เเละในการรวมเเรงหรือเเตกเเรงก็ให้คิดเเบบเดียวกับการ รวมเวกเตอร์เเละการเเตกเวกเตอร์ไปเลย
เเรง
เเรง หมายถึงการกระทำที่ทำให้วัตถุ เปลี่ยนเเปลงทั้ง ขนาด รูปร่าง ความเร็ว หรืออาจเปลี่ยนทิศทางของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ได้ ในทางฟิสิกส์เเรงนั้นทำให้เกิดงานของวัตถุ หรือทำให้วัตถุเปลี่ยนเเปลงพลังงานที่สะสมอยู่ได้
เเรงเป็นปริมาณ เวกเตอร์ มีทั้งขนาดเเละทิศทางเพราะเวลาเราออกเเรงกระทำกับวัตถุใดๆ เเรงกระทำของเราต้องมีทิศทาง เสมอ ดังนั้นในการพิจารณา เเรง ต้องพิจารณาทั้งขนาด เเละทิศทาง ด้วย
ในการคำนวนทางฟิสิกส์เราต้องมารู้จักการเเตกเเรงเเละการ รวมเเรงด้วยซึ่ง จริงๆเเล้ว เเรงเป็นเวกเตอร์ใดๆ เเละในการรวมเเรงหรือเเตกเเรงก็ให้คิดเเบบเดียวกับการ รวมเวกเตอร์เเละการเเตกเวกเตอร์ไปเลย
สมมติว่าตอนเเรกนั้นมีเฉพาะเเค่เเรก E (ขนาด E) เเละ เราต้องการที่จะเเตกเเรง ออกเป็นเเรง 2 เเรง โดยมีเงื่อนไขว่าเเรงทั้ง 2 ต้องตั้งฉากซึ่งกันเเละกัน มีหลังการดังนี้
1) กำหนดมุม θ
2) เเตกเเรงออก เป็น 2 เเรงโดย เเรงทั้ง 2 ต้องตั้งฉากซึ่งกันเเละกัน (เเรงคู่ฉาก)
3) เเรงที่เเตกเข้าหา θ จะเป็น Ecosθ ส่วนเเรงที่เเตกออกจาก θ จะเป็น Esinθ
4) เมื่อเเตกเเรงเสร็จ เเรงเดิมจะหายไป(เส้นสีน้ำเงิน)
เมื่อเรารู้วิธีการเเตกเเรงกันเเล้วที่นี้มา เรียนรู้วิธีการรวมเเรงกันบ้าง การรวมเเรงนั้นหากเเรงที่เราต้องการจะรวม ไม่ได้ทำมุมใดๆ(ทิศเดียวกัน หรือ ทิศตรงข้ามกัน) ต่อกันให้เรารวมเเรงเเบบ บวก ลบ เลขธรรมดาได้เลย โดยให้กำหนดทิศขึ้นมา เเล้วให้ เเรงที่มีทิศไปทางทิศนั้น มีค่าเป็นบวก เเละเเรงที่มีทิศตรงข้ามกับทิศนั้น มีค่าเป็นลบ เเล้วจึงนำมารวมกันได้เลย เช่น
เเละถ้าเเรงที่เราต้องการนำมารวมกันทำมุมใดๆ ต่อกันให้คิดคำนวณตามรูปภาพข่างล่างนี้ได้เลย
จากในภาพจะเห็นได้ว่าเป็นตัวอย่าง การคำนวณการรวมเเรงโดยที่ เเรงทั้ง 2 ทำมุมใดๆต่อกันเเบบหางต่อหัว(รูปขวามือ) เนื่องจากในภาพใช้มุม 120 องศาในการคำนวณ หากเราต้องการคำนวณโดยใช้วิธีหางต่อหาง(รูปซ้ายมือ) ให้วางสมาการแบบเดียวกันนี้เลย เเต่เครื่องหมายหน้า 2AB ให้เปลี่ยนจาก ลบ มาเป็น บวกเเทนเท่านั้นเอง(-2AB เป็น +2AB) ซึ่งเเรงที่เกิดจากการรวมเเรงย่อยๆ ไม่ว่าเเรงย่อยเหล่านั้นจะทำมุม หรือ ไม่ทำมุมต่อกันก็ตาม เราเรียกเเรงที่เกิดจากการรวมเเรงย่อยเหล่านี้ว่าเเรงลัพธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น